ศาลสั่งถอนความเห็น 'ที่ประชุม มัธยมรามคำแหง' ปลดพ้น 'อธิการบดี' ชี้เป็นคำบัญชา

ศาลสั่งถอนความเห็น ‘ที่ประชุม มัธยมรามคำแหง’ ปลดพ้น ‘อธิการบดี’ ชี้เป็นคำบัญชา

ศาลปกครองสั่งเลิกความเห็นชอบ ที่ประชุม มัธยมรามคำแหง ปลด สืบดงษ์’ พ้นตำแหน่งอธิการบดี มัธยมราศาลชี้เป็นความเห็นไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

การศึกษา ไม่ให้โอกาสนำหลักฐานชี้แจ้งก่อนลงความเห็น ที่ศาลปกครอง ถนนแจ้งวัฒนะ ศาลปกครองกึ่งกลางได้มีคำตัดสิน คดีลำดับที่ดำที่ บริษัท12/2565 ลำดับที่แดงที่ บริษัท116/2566 ระหว่าง นายสืบดงษ์ ปราบใหญ่ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ผู้ฟ้องศาล กับ ที่ประชุมมหาวิทยาลัยรามคำแหงที่ 1 ศาสตราจารย์บริบูรณ์ สุขสำราญ อุปนายกที่ประชุมมหาวิทยาลัยรามคำแหง ทำแทนนายกที่ประชุมมหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ 2 และก็นายกที่ประชุมมหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่ 3 ผู้ถูกฟ้องคดี คดีนี้ผู้ฟ้องศาลฟ้องว่า เดิมผู้ฟ้องร้องคดีครองตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง โดยผู้ฟ้องศาลได้รับความเดือดร้อนเสียหายจากการที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ลงความเห็นสำหรับเพื่อการสัมมนาครั้งที่ 15/2564 ช่วงวันที่ 24 ธันวาคม 2565 แล้วก็ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ได้มีคำบัญชาที่ 128/2564 ระบุวันที่ 24 ธันวาคม 2564 ปรับแต่งเพิ่มโดยคำบัญชาที่ 131/2564 ระบุวันที่ 28 ธันวาคม 2564 ให้ถอดถอนผู้ฟ้องออกมาจากตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ผู้ฟ้องร้องคดีก็เลยยื่นฟ้องคดีต่อศาล ขอให้ศาลมีคำตัดสินยกเลิกความเห็นรวมทั้งคำบัญชาดังกล่าวมาแล้วข้างต้น รวมถึงขอให้ศาลมีคำบัญชาปกป้องชั่วครั้งชั่วคราวก่อนที่จะมีการตัดสินคดี

ศาลสั่งถอนความเห็น 'ที่ประชุม มัธยมรามคำแหง' ปลดพ้น 'อธิการบดี' ชี้เป็นคำบัญชา

โดยสั่งดีขึ้นกว่าเดิมการบังคับตามความเห็นชอบรวมทั้งคำบัญชาดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วไว้ชั่วครั้งชั่วคราวกระทั่งคดีใกล้จะถึงที่สุด

ศาลปกครองกึ่งกลางตรึกตรองแล้วมีความเห็นว่า สำหรับในการสัมมนาของผู้ถูกฟ้องคดี ข่าวการศึกษา ที่ 1 ครั้งที่ 15/2564 ตอนวันที่ 24 เดือนธันวาคม 2564 มีผู้ตัดสินที่ประชุมมหาวิทยาลัยบางรายได้อภิปรายไม่เห็นพ้องกับในกรณีที่ผู้ฟ้องศาลไม่เรียกสัมมนาที่ประชุมมหาวิทยาลัยจากที่ผู้ตัดสินหลายชิ้นกว่า 7 คน มีหนังสือวิงวอนแล้วก็ได้มีการตั้งข้อซักถามเพื่อผู้ฟ้องร้องคดีอธิบาย ซึ่งผู้ฟ้องร้องคดีก็ได้อธิบายต่อผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ถึงเหตุผลที่ผู้ฟ้อง ไม่เรียกสัมมนา จากนั้น ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้นำการประชุมได้แจ้งให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ลงความเห็นในสองข้อความสำคัญหมายถึง หัวข้ออันดับที่หนึ่ง ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 จะปรึกษาในเรื่องที่ผู้ฟ้องร้องคดีอธิบายถัดไปหรือเปล่า ซึ่งผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ได้ลงความเห็นโดยเสียงส่วนมากว่าจะสัมมนาขอคำแนะนำในเรื่องที่ผู้ฟ้องร้องคดีอธิบายถัดไป หลักสำคัญลำดับที่สอง ผู้ฟ้องจึงควรออกไปจากห้องสำหรับประชุมในขณะที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ทำไตร่ตรองในหัวข้ออันดับแรกหรือเปล่า ซึ่งผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ได้ลงความเห็นโดยเสียงส่วนมากว่าผู้ฟ้องศาลจึงควรออกไปจากห้องสำหรับประชุมเวลาที่ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 กระทำตรึกตรองในหัวข้ออันดับแรก และก็เมื่อสำเร็จการลงความเห็นของผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ทั้งคู่หัวข้อแล้ว ผู้ฟ้องศาลก็ได้ออกไปจากห้องสำหรับประชุม ต่อไป ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ได้กระทำการพินิจถัดไปจวบจนกระทั่งมีการลงความเห็นถอดถอนผู้ฟ้องออกมาจากตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง จากความเป็นจริงดังที่กล่าวถึงมาแล้ว มองเห็นได้ว่า ขณะเริ่มสัมมนาผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 ไม่ได้แจ้งให้ผู้ฟ้องร้องคดีรู้เลยว่าจะมีการตรึกตรองโหวตถอดถอนผู้ฟ้องร้องออกมาจากตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ในวาระการประชุมนี้ อาจจะมีก็แต่เพียงการอภิปรายแล้วก็เสนอคำถามจากผู้ตัดสินที่ประชุมมหาวิทยาลัยบางราย เพื่อผู้ฟ้องศาลแจกแจงถึงเหตุผลที่ไม่เรียกสัมมนาที่ประชุมมหาวิทยาลัยเพียงแค่นั้น

แนะนำข่าวการศึกษา อ่านเพิ่มเติมคลิ๊กเลย : ผิดหวังพรรคการเมืองไม่มีแผนการอุดมฯ จักจี้กรุ๊ป ทปอ.-ที่ประชุมคณะครูตั้งเวทีเสนอ

ลูกศิษย์วังบางขุนพระพรหม “ไม่ทน” หลักการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง Previous post ลูกศิษย์วังบางขุนพระพรหม “ไม่ทน” หลักการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง
แบงก์ไทยเครดิตฯ ยกระดับธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบ-เข้า ตลท Next post แบงก์ไทยเครดิตฯ ยกระดับธนาคารพาณิชย์เต็มรูปแบบ-เข้า ตลท. ปลายปี66